''ประโยชน์ของ ลิ้นจี่''เพื่อสุขภาพที่ดี
เนื้อลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ เช่น
วิตามิน บี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน วิตามินเอ ซี วิตามินบี 6 วิตามินอี
โปแตสเซี่ยม ทองแดง สังกะสี ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม โฟเลต และมีเส้นใยอาหารสูง
นอกจากนี้มีกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างของโปรตีนได้แก่ ไทโรซีน แอสปาราจีน อะลานีน
ทรีโอนีน วาลีน และสารประกอบไกลซีน น้ำมันจากเมล็ดลิ้นจี่มีสารประกอบ
เป็นกรดไขมันที่สำคัญเช่น ปาล์มมิติก 12% โอลิอิก 27% และไลโนเลอิค 11%
ส่วนเปลือกผลมีสารประกอบประเภท ไซยานิดิน- 3 -กลูโคไซด์ และมัลวิดิน - 3 - อะเซทิล
– กลูโคไซด์
สรรพคุณทางยา ตามที่ใช้ในประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ นับมาแต่โบราณ
เนื้อในผล กินเป็นยาบำรุง
แก้อาการไอเรื้อรัง แก้อาการคัดจมูก
รักษาอาการท้องเดิน ลดกรดในกระ-เพาะอาหาร
และบรรเทา
อาการไม่ปกติของระบบทางเดินอาหาร
ในประเทศจีนใช้เปลือกผลลิ้นจี่ทำเป็นชา
ใช้ชงเพื่อบรรเทาอาการหวัด แก้การติดเชื้อในลำคอ
อาการท้องเสียอย่างอ่อน
และโรคจากการติดเชื้อไวรัส ตำรายาจีนกล่าวเฉพาะเมล็ดลิ้นจี่
ว่ามีรสหวาน ขมเล็กน้อย
สรรพคุณอุ่น ทำให้พลังชี่ขับเคลื่อน ลดอาการปวด ใช้กรณีปวดท้อง
ปวดไส้เลื่อน
ปวดบวมของอัณฑะ ใช้ขนาด 5-10 กรัม โดยมักผสมกับสมุนไพรอื่นอีก
หนึ่งหรือสองชนิด
เมล็ดลิ้นจี่ ที่แห้ง ควรนำมาบด คั่วให้แห้งโดยผสมด้วยน้ำเกลือ
แล้วจึงเติมน้ำลงไปต้ม น้ำดื่ม หรือทำเป็นผง รับประทานหรือใช้
ผงยาพอกบริเวณมีอาการปวดบวม
รากลิ้นจี่หรือเปลือกต้นใช้แก้อาการติดเชื้อ
ไวรัส อีสุกอีใส และเพิ่มความสามารถ
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
สำหรับ งานวิจัยซึ่ง ยังต้องการพิสูจน์ซ้ำเพื่อให้ได้ผลยืนยัน
พบว่า สารสกัดเมล็ด
ด้วยน้ำขนาด 0.6 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
ให้แก่ผู้ที่เป็นพาหะโรคไวรัสตับชนิด บี
ใช้ได้ผลดี
ในการยับยั้งเอ็นไซม์ตับที่สูงขึ้น
งานวิจัยเปลือก ของผลลิ้นจี่มีสารกลุ่มฟลาโวนอลที่สำคัญคือ
โพรไซยาไนดินบี 4 ไพรไซยา-
ไนดินบี 2 และอีพิคาเทชิน ส่วนที่สำคัญคือ ไซยาไนดิน -
3 - รูตินโนไซด์ ไซยาไนดิน- 3
กลูโคไซด์ เควอเซทิน – 3 - รูติโนไซด์ และเควอเซทิน
- 3 - กลูโคไซด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง
และสารสกัดเปลือกยัง
มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์ มะเร็งเต้านม ทั้งในห้องทดลองและในสัตว์ทดลอง
โดยยับยั้งการขยายจำนวนเซลล์ การควบคุมการสื่อสารระหว่างเซลล์มะเร็ง และเหนี่ยวนำให้เกิดการตาย
ของเซลล์มะเร็งรายงานวิจัยที่ทำในประเทศจีนอื่นๆยังพบว่า
สารสกัดลิ้นจี่ลดขนาดเนื้องอกในสัตว์ทดลอง
แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นสารสกัดส่วนใดของลิ้นจี่ สำหรับงานวิจัย นักวิทยาศาสตร์ของไทย
พบว่าสารสกัดผลลิ้นจี่มีฤทธิ์ในการปกป้องตับ ในหนูที่เหนี่ยวนำให้ได้รับสารพิษ
และเป็นโรคตับ
ผลการใช้ลิ้นจี่และผลวิจัยจากสารสกัดลิ้นจี่ แสดง
ศักยภาพของลิ้นจี่ ไม่เพียงแต่มีรสอร่อย
แต่ยังมากด้วยคุณค่าทางยา อย่างไรก็ดี
เนื้อผลลิ้นจี่ ยังมีสารประกอบที่พบในการวิจัย
และคาดว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิด
อาการ “ ร้อนใน ” ได้ การรับประทานลิ้นจี่มากเกินไป
อาจเกิดอาการดังกล่าวได้
ควรรับประทานอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารรสเย็น
เพื่อให้เกิดความสมดุลและแก้อาการดังกล่าว
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น